Generative AI คือทักษะแห่งอนาคต ที่คนทำงานต้องเริ่มใช้ตั้งแต่วันนี้

ในโลกการทำงานยุคใหม่ “เวลา” คือทรัพยากรที่มีค่าที่สุด และ “ข้อมูล” คือสิ่งที่มากที่สุด แต่การจะจัดการสองสิ่งนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้นั้น จำเป็นต้องมีทักษะใหม่ที่เข้ามาช่วยเติมเต็ม และหนึ่งในทักษะสำคัญที่หลายองค์กรชั้นนำทั่วโลกกำลังลงทุนและพัฒนาอย่างจริงจังคือ Generative AI

Generative AI ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือสุดล้ำ แต่คือ “เพื่อนร่วมทีมดิจิทัล” ที่ช่วยให้คนทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น คิดวิเคราะห์เร็วขึ้น และทำงานซับซ้อนให้กลายเป็นงานที่เรียบง่ายขึ้นได้

ทำไม Generative AI ถึงกลายเป็นทักษะจำเป็น?

  1. ช่วยย่นระยะเวลาในกระบวนการทำงาน
    จากเดิมที่อาจต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการสรุปรายงาน ประมวลข้อมูล หรือจัดทำเอกสาร วันนี้ Generative AI สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ภายในไม่กี่นาที
  2. เสริมทักษะการคิด วิเคราะห์ และสื่อสาร
    เครื่องมืออย่าง ChatGPT, Gemini หรือ Copilot ช่วยให้พนักงานสามารถสื่อสารเป็นระบบมากขึ้น มีแนวคิดที่ชัดเจนขึ้น และมีข้อมูลที่สนับสนุนการตัดสินใจ
  3. พร้อมปรับใช้กับงานในหลากหลายสายงาน
    ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสายงาน HR, การตลาด, การเงิน, การบริหาร หรือแม้แต่การขาย — Generative AI สามารถเข้ามาเสริมพลังในการทำงานได้แทบทุกมิติ

ตัวอย่างองค์กรที่เริ่มใช้ Generative AI อย่างเป็นรูปธรรม

1. PwC (PricewaterhouseCoopers):
บริษัทที่ปรึกษาระดับโลกแห่งนี้ลงทุนมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในการฝึกอบรมพนักงานเพื่อใช้ Generative AI ในการวิเคราะห์ข้อมูล สรุปผลการประชุม และเขียนรายงานลูกค้าแบบมืออาชีพ

2. Unilever:
แบรนด์ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ ใช้ Generative AI ในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคและสร้างแคมเปญการตลาดที่สื่อสารตรงใจแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ส่งผลต่อยอดขายและความพึงพอใจของลูกค้าในหลายประเทศ

3. ธนาคารกสิกรไทย (KBank):
เริ่มต้นนำ Generative AI มาใช้ในงานสนับสนุนภายใน เช่น การสรุปข้อเสนอการขาย การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า และการสร้างรายงานการประชุมอัตโนมัติ เพื่อช่วยให้ทีมทำงานเร็วขึ้นและลดความผิดพลาด

หากไม่เริ่มใช้วันนี้ จะเริ่มทันไหมในวันพรุ่งนี้?

โลกของการทำงานเปลี่ยนไปเร็วมาก ผู้ที่เริ่มเรียนรู้ก่อน ย่อมได้เปรียบในการแข่งขันและการเติบโตในสายงาน ส่วนคนที่ยังลังเลอาจพบว่าตัวเองต้องเร่งปรับตัวอย่างหนักในภายหลัง

เริ่มต้นเรียนรู้ Generative AI ต้องรู้อะไรบ้าง?

  • เข้าใจหลักการทำงานของ AI และขีดจำกัดของมัน
  • เรียนรู้วิธีตั้งคำถาม (Prompting) ที่ได้ผลลัพธ์มีคุณภาพ
  • ฝึกใช้เครื่องมือจริง เช่น ChatGPT, Copilot, Gemini กับงานในชีวิตประจำวัน
  • สร้างเวิร์กโฟลว์ที่ AI เข้ามาเสริม ไม่ใช่แทนที่

สรุป

Generative AI ไม่ใช่เทรนด์ที่มาแล้วผ่านไป แต่คือทักษะที่จำเป็นในยุคใหม่ เป็นทั้งเครื่องมือที่ช่วยให้คนทำงานเก่งขึ้น และเป็น “ตัวช่วยคิด” ที่เสริมศักยภาพในการตัดสินใจ สื่อสาร และแก้ปัญหายิ่งเริ่มต้นไวเท่าไร ยิ่งมีโอกาสมากกว่าคนอื่น
องค์กรที่พร้อมลงทุนในการเรียนรู้ AI จะมีทีมที่ปรับตัวได้ไว ตอบโจทย์ลูกค้าได้เร็ว และสร้างนวัตกรรมได้อย่างต่อเนื่อง