เมื่อ Generative AI อย่าง ChatGPT, Claude, หรือ Midjourney กลายเป็นเครื่องมือที่เข้าถึงง่ายและทรงพลัง คนทำงานหลายคนเริ่มนำมาใช้ในการสร้างคอนเทนต์ สรุปงาน เขียนโค้ด ไปจนถึงวางแผนกลยุทธ์การตลาด แต่ในขณะที่บางคนใช้ AI เพื่อ “เสริมศักยภาพ” อีกกลุ่มหนึ่งกลับถูกมองว่า “ขี้โกง” เพราะเอา AI มาทำแทนเกือบทุกอย่าง โดยไม่ใส่บริบท ไม่กลั่นกรอง หรือไม่ระบุแหล่งที่มา
ในยุคที่คนเก่งไม่ใช่คนที่ “ทำคนเดียวได้หมด” แต่คือคนที่ “ใช้เครื่องมือได้เป็น” เราจึงต้องรู้จักใช้ AI อย่างมืออาชีพ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในสายงาน และยกระดับตัวเอง ไม่ใช่แค่ทำงานให้เร็วขึ้น แต่ต้องฉลาดขึ้นด้วย
แล้วใช้ AI ยังไงให้ “ไม่ดูขี้โกง”?
ใช้เป็น “ที่ปรึกษา” ไม่ใช่ “เครื่องพิมพ์คำตอบ”
แทนที่จะพิมพ์คำสั่งเพื่อให้ AI ทำงานแทน ควรใช้มันเป็นที่ปรึกษา เช่น
- ขอดราฟต์โครงงาน แล้วนำมาปรับให้เข้ากับบริบทองค์กร
- ขอไอเดีย แล้วเติมข้อมูลเฉพาะทางของคุณลงไป
- ให้ AI ตรวจความถูกต้อง แต่คุณเป็นคนสรุปเนื้อหาขั้นสุดท้าย
ใส่เครดิตหรือแจ้งแหล่งที่มาที่เหมาะสม
ถ้าใช้ AI เป็นผู้ช่วยในการเขียนบทความ สร้างภาพ หรือออกแบบอะไรบางอย่าง การแจ้งว่า “จัดทำร่วมกับ AI” หรือ “ข้อมูลบางส่วนได้จากระบบ Generative AI” จะทำให้คุณดูโปรมากขึ้นกว่าการแกล้งทำเหมือนไม่มีใครช่วย
เชื่อม AI กับทักษะมนุษย์
AI เก่งเรื่องข้อมูล ความเร็ว และรูปแบบซ้ำ ๆ แต่ไม่เก่งเรื่อง “เจตนา” “อารมณ์” และ “บริบทเฉพาะทาง” ดังนั้นควรใช้ AI เป็นพื้นฐาน แล้วนำทักษะมนุษย์ เช่น ความคิดสร้างสรรค์ การตัดสินใจ หรือความเข้าใจลูกค้า มาเติมเต็มให้สมบูรณ์
ตัวอย่างองค์กรที่ใช้ AI อย่างมืออาชีพ
PwC (PricewaterhouseCoopers)
บริษัทที่ปรึกษาระดับโลกใช้ ChatGPT Enterprise เพื่อช่วยสรุปรายงานการเงิน และวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น แต่ยังให้ทีมงานตรวจสอบ วิเคราะห์ความเสี่ยง และตัดสินใจเชิงกลยุทธ์เองทั้งหมด
Coca-Cola
นำ Generative AI มาใช้สร้างสรรค์โฆษณาและแคมเปญการตลาดร่วมกับศิลปินและครีเอเตอร์ แต่ยังคงใช้ทีม Creative มนุษย์ในการเลือกแนวคิดและพัฒนาให้สื่อสารตรงกลุ่มเป้าหมาย
LinkedIn
ใช้ AI ช่วยเขียน Resume หรือบทความแนะนำตัวเบื้องต้นให้ผู้ใช้ แต่มีการเตือนให้ผู้ใช้ทบทวน แก้ไข และใส่ความเป็นตัวเองลงไปก่อนเผยแพร่
สรุป: AI ไม่ได้ผิด แต่การใช้ผิดวิธีต่างหากที่ดูขี้โกง
คนที่ใช้ AI อย่างมีจริยธรรมและมืออาชีพ คือคนที่สามารถยกระดับตัวเองในยุคใหม่ได้อย่างยั่งยืน ไม่เพียงทำงานได้เร็วขึ้น แต่ยังเป็นที่ไว้วางใจมากขึ้นจากหัวหน้า ทีม และลูกค้าอีกด้วย
หากองค์กรของคุณกำลังมองหาทางฝึกอบรมพนักงานให้ใช้ AI อย่างถูกต้อง ไม่ใช่แค่ “เร็ว” แต่ “มีมาตรฐาน” และ “ไม่เสี่ยงภาพลักษณ์” ลองมองหาโปรแกรมฝึกอบรมหรือที่ปรึกษาที่เข้าใจทั้งมิติของธุรกิจและเทคโนโลยีไปพร้อมกัน