การลาออกจากงานมักจะมีเหตุผลที่หลากหลาย แต่สิ่งที่หลายองค์กรมักมองข้ามคือ ปัญหาการเงินที่อาจเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจลาออกของพนักงานในยุคปัจจุบัน ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัวหรือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเงินของพนักงานเองอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องที่องค์กรต้องให้ความสำคัญ เพื่อไม่ให้สูญเสียบุคลากรที่มีค่าซึ่งมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพและการเติบโตขององค์กร
ความจริงที่ต้องรู้: ปัญหาทางการเงินของพนักงานมีผลต่อองค์กรมากกว่าที่คิด
ในอดีตหลายๆ องค์กรอาจมองว่าเรื่องการเงินของพนักงานเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่ควรจะเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานขององค์กร แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งเหล่านี้มีผลกระทบโดยตรงต่อการทำงานและความพึงพอใจในการทำงานของพนักงานอย่างไม่น่าเชื่อ
ในยุคที่ค่าใช้จ่ายต่างๆ สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าครองชีพ การศึกษาของลูก ค่าเช่าบ้าน หรือค่ารักษาพยาบาล ปัญหาทางการเงินของพนักงานจึงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องส่วนตัวอีกต่อไป นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเศรษฐกิจภายนอก เช่น เงินเฟ้อ และการเปลี่ยนแปลงในอัตราเงินเดือนที่ไม่สามารถตามทันกับค่าครองชีพ ทำให้พนักงานรู้สึกเครียดและกดดันกับสถานการณ์ทางการเงิน ซึ่งสะท้อนออกมาในรูปแบบของการขาดแรงจูงใจในการทำงาน จนในที่สุดบางคนตัดสินใจลาออกเพื่อหางานที่สามารถรองรับความต้องการทางการเงินของตนเองได้ดีกว่า การสำรวจและจัดการ Financial Wellbeing ของพนักงานการจัดการกับปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป หากองค์กรสามารถวัดและติดตาม Financial Wellbeing ของพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสำรวจเรื่องความสุขทางการเงินจะช่วยให้องค์กรรับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับพนักงานก่อนที่จะเกิดการลาออกหรือการลดประสิทธิภาพการทำงาน
การทำ Financial Wellbeing Survey จะช่วยให้ผู้บริหารและทีม HR ได้เห็นภาพรวมของปัญหาทางการเงินที่พนักงานกำลังเผชิญ เช่น พนักงานมีหนี้สินจำนวนมาก หรือไม่สามารถบริหารจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขารู้สึกเครียดและไม่มีสมาธิในการทำงาน
จากข้อมูลที่ได้รับในการสำรวจ องค์กรสามารถปรับปรุงนโยบายด้านการเงินและสวัสดิการของพนักงานได้ทันที เช่น การเพิ่มสวัสดิการด้านการเงิน การสนับสนุนการวางแผนการเงินส่วนบุคคล หรือการให้คำปรึกษาด้านการเงิน รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างเงินเดือนให้สอดคล้องกับค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีตัวอย่างองค์กรที่ประสบความสำเร็จจากการให้ความสำคัญกับการเงินของพนักงาน
หลายองค์กรชั้นนำได้เล็งเห็นความสำคัญของการดูแลด้านการเงินและสุขภาพจิตของพนักงาน ซึ่งได้สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อประสิทธิภาพการทำงานและความภักดีต่อองค์กร เช่น:
Google: Google ไม่ได้มีแค่สวัสดิการที่ดีในแง่ของเงินเดือน แต่ยังให้ความสำคัญกับการวางแผนการเงินส่วนบุคคลสำหรับพนักงาน โดยการให้คำปรึกษาทางการเงินและการจัดโปรแกรมการออมเพื่อสุขภาพทางการเงินที่ยั่งยืน
Microsoft: Microsoft มีโปรแกรมที่ช่วยพนักงานในการบริหารจัดการการเงินส่วนบุคคล พร้อมทั้งส่งเสริมพนักงานในการใช้เวลาหยุดพักจากงานเพื่อสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน ซึ่งช่วยลดความเครียดจากปัญหาการเงิน
Salesforce: Salesforce ให้ความสำคัญกับการจัดการด้านการเงินและได้ออกแบบโครงการ “Financial Health Initiative” เพื่อให้พนักงานได้รับการศึกษาและการวางแผนการเงินที่ดีขึ้น
การดูแลสุขภาพทางการเงินของพนักงาน = การสร้างความมั่นคงให้กับองค์กร
การให้ความสำคัญกับการเงินของพนักงานไม่เพียงแต่ช่วยรักษาแรงงานที่มีคุณภาพไว้เท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและสร้างความมั่นคงทางธุรกิจ โดยการจัดการปัญหาทางการเงินของพนักงานจะช่วยลดความเครียดและทำให้พนักงานรู้สึกว่าองค์กรพร้อมที่จะให้การสนับสนุนพวกเขาในทุกด้าน ไม่เพียงแต่ในเรื่องงานแต่ในชีวิตส่วนตัวด้วย
สรุป
การลาออกของพนักงานไม่ใช่แค่เรื่องของประสิทธิภาพการทำงาน แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายด้าน โดยเฉพาะปัญหาทางการเงินที่อาจเป็นสาเหตุหลัก การดูแลและจัดการ Financial Wellbeing ของพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพคือหนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดในการรักษาพนักงานที่มีคุณภาพและเพิ่มผลผลิตในองค์กรหากองค์กรของคุณยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับด้านนี้ ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องเริ่มมองหาวิธีที่จะสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับพนักงานของคุณ เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาลาออกไปหางานที่ดีกว่าและให้พวกเขามีแรงจูงใจในการทำงานต่อไปติดต่อเราเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการสำรวจและพัฒนา Financial Wellbeing สำหรับพนักงานของคุณ